
เล่มที่ 22/2020
The business idea factory
อ่านง่ายดี เป็นหนังสือแนะนำวิธีการสร้างไอเดียใหม่
ถึงชื่อหนังสือจะเขียนว่าเป็น business idea แต่จริงๆก็ใช้กับอะไรก็ได้หล่ะ
วิธีสร้างไอเดียในหนังสือเล่มนี้ ออกจะเป็น trick มากกว่า แต่ก็เป็น trick ที่ดี
คือยอมรับว่าบางอันก็ดูงั้นๆ แต่หนังสือพยายามรวมมาให้ ก็อ่านไว้เป็นแนวทางได้
3 เทคนิคการสร้างไอเดียที่ผมชอบจากเล่มนี้
1. เขียนคำถาม 10 แบบสำหรับปัญหาของคุณ
ลองดูว่าปัญหาของคุณสามารถเขียนคำถามในรูปแบบต่างๆได้กี่แบบ หลายครั้งที่การเปลี่ยนคำถาม เราก็จะได้มุมมองและคำตอบแตกต่างออกไป
เช่นจากโจทย์ “จะเพิ่มยอดขายเครื่องซักผ้ายังไงดี” คุณอาจจะตั้งคำถามแบบอื่นได้ว่า “ทำไงให้ลูกค้า 1 คนซื้อเครื่องซักผ้ามากกว่า 1 เครื่อง” ไปจน “ทำอย่างไรถึงจะจ้างคนขายๆเก่ง มาขายแทนเรา”
หนังสือยังแนะนำให้ลอง แยกปัญหาเป็นประเด็นย่อยๆ แล้วลองตั้งคำถามทีละมุม เพราะการตั้งคำถามกับประเด็นที่ใหญ่ไป อาจจะทำให้เราคิดไม่ออก เช่น แทนที่จะถามว่า ตั้งโรงงานช็อกโกเล็ตยังไงดี ก็ลองถามว่า ทำยังไงให้ได้ช็อกโกแล็ตอร่อยๆ
2 คิดไปพักไป
เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีนะ คือตั้งใจคิดหาคำตอบไปเลย ตั้งเวลาไว้ พอหมดเวลา ก็เลิกคิด ไปทำอย่างอื่น ไปนอน แล้วค่อยกลับมาคิดใหม่ วิธีนี้จะเป็นการให้สมองให้ process ความคิดและปัญหา หลายครั้งจะทำให้เราสามารถคิดอะไรออกได้
อีกแนวทางคือ คิดปัญหาหลายอย่างพร้อมๆกัน คือ คิดปัญหาที่ 1 ก่อน พอหมดเวลาก็คิดปัญหาที่ 2 แล้วก็กลับมาที่ 1 วนไปวนมา แบบว่าให้สมองได้เปลี่ยนเรื่องคิด
3 การสร้างไอเดียใหม่ๆเป็นงานมาราธอน
คืออยู่ๆจะให้ได้ไอเดียดีๆมันเป็นเรื่องยาก หนังสือแนะนำให้ทำให้เป็นนิสัย คือ ค่อยๆคิดทุกวัน ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ อย่าหยุด คิดไอเดียอะไรได้ก็จดเก็บไว้
รวมถืงลองออกไปเจอคน ไปทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพราะเป็นการรับฟังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะมาเป็นวัตถุดิบให้เราสร้างไอเดียได้
ส่วนตัวว่าหลายองค์กรมีปัญหานี้ คือ อยากให้พนักงานมีไอเดีย แต่ไม่ได้ให้โอกาสพนักงานได้ออกไปเปิดหูเปิดตา รับรู้ไอเดีย
สรุป … อ่านได้ ไม่ได้ว้าวมาก แต่หนังสือได้รวบรวมเทคนิคดีๆไว้เยอะมากกก หลายๆอันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ฟังแล้วน่าสนุกดี
เช่น เทน้ำใส่แก้ว ถามคำถาม แล้วกินน้ำครึ่งแก้ว ระหว่างกินก็บอกว่า ขอให้ได้คำตอบ แล้วก็เข้านอน ตื่นมากินอีกครึ่งแก้ว แล้วดูว่าได้ไอเดียอะไรบ้าง คือมันมีหลักการรองรับนะ แต่ฟังแล้วดูน่ารักดี 😀